บทความที่ได้รับความนิยม

วันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560

เป้าหมายของนโยบายต่างประเทศ


นโยบายต่างประเทศของรัฐต่างๆนั้นมีเป้าหมายดังนี้
1.เป้าหมายเพื่อการักษาสันติภาพ(peace)
2. เป้าหมายเพื่อการสร้างความมั่นคง(security)
3.เป้าหมายเพื่อการรักษาอำนาจ(power)
4. เป้าหมายเพื่อการรักษาความอุดมสมบูรณ์และการพัฒนาเศรษฐกิจ(prosperity and economic development)

เป้าหมายเพื่อการรักษาสันติภาพ

ในปัจจุบันสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศที่เป็นอยู่ได้แสดงให้เห็นว่า การเมืองระหว่างประเทศมีความเป็นไปได้ทุกขณะที่จะใช้ความรุนแรง(violence) อันได้แก่ การใช้กำลังอาวุธและกำลังทหารเป็นเครื่องมือในการระงับข้อขัดแย้งต่างๆดังจะเห็นได้จากวิกฤติการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในภูมิภาคต่างๆ เช่น สงครามอิรัก-อิหร่าน  สงครามระหว่างอิรักกับสหรัฐอเมริกา สงครามระหว่างกลุ่มประเทศนาโตกับประเทศอัฟกานิสถาน ความขัดแย้งบริเวณชายแดนระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนกับเวียดนาม รวมทั้งปัญหาชายแดนระหว่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวกับประเทศไทย ความขัดแย้งทางพรมแดนระหว่างกัมพูชากับประเทศไทย เป็นต้น เมื่อสถาการณ์เป็นเช่นนี้ รัฐต่างๆจึงพยายามดำเนินนโยบายต่างประเทศต่างประเทศโดยกำหนดเป้าหมายเพื่อการรักษาสันติภาพ ดังจะเห็นได้จากมีการตกลงจำกัดอาวุธ(arms limitation) และลดอาวุธ(disarmament) ตามกฎบัตรสหประชาชาติ หรือมีการตกลงกันจำกัดการสร้างอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างอดีตสหภาพโซเวียตกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นอภิมหาอำนาจที่สำคัญ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1972 เป็นต้นมา รวมทั้งนโยบายการผ่อนคลายความตึงเครียด(Détente) ระหว่างอภิมหาอำนาจทั้งสอง อย่างไรก็ตาม การเจรจาระหว่างอภิมหาอำนาจทั้งสองเพื่อจำกัดการสร้างอาวุธที่ร้ายแรงนั้นประสบผลสำเร็จบางอย่างเท่านั้น จวบจนกระทั่งเกิดการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในทศวรรษที่ 1990

เป้าหมายเพื่อการสร้างความมั่นคง

นโยบายต่างประเทศของรัฐโดยทั่วไปจะคำนึงถึงความมั่นคงเป็นหลักสำคัญ จะเห็นได้ว่านโยบายแผ่อิทธิพลและอำนาจของสหรัฐอเมริกาและอดีตสหภาพโซเวียตในภูมิภาคต่างๆของโลกนั้น ก็เพื่อสร้างความมั่นคงในดุลยภาพของอำนาจระหว่างอภิมหาอำนาจทั้งสอง หรือไทยต้องดำเนินนโยบายต่างประเทศแบบผูกมิตรกับสาธารณรัฐประชาชนจีน สหรัฐอเมริกา และประเทศในสมาคมอาเซียน ก็เพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัยในกรณีที่เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับเวียดนาม กัมพูชา(เฮง สัมริน) และลาวที่มีอดีตสหภาพโซวียดหนุนหลัง เป้าหมายของนโยบายต่างประเทศในแง่ของการสร้างความมั่นคงนี้ ในทางปฏิบัติดูเหมือนจะมีความสำคัญมากกว่าเป้าหมายเพื่อสันติภาพเสียอีก

เป้าหมายในการรักษาอำนาจ

การรักษาสถานภาพแห่งอำนาจ (status quo) เป็นเป้าหมายสำคัญประการหนึ่งของนโยบายต่างประเทศ ในทางปฏิบัติรัฐต่างๆจะรักษาอำนาจและฐานะของตนในเวทีการเมืองระหว่างประเทศมิให้ตกต่ำลง ดังจะเห็นได้ว่า สหรัฐอเมริกาและอดีตสหภาพโซเวียตต่างก็พยายามรักษาอิทธิพลของตนในภูมิภาคต่างๆรวมทั้งแข่งขันกันมีอิทธิพลในประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลาย ตัวอย่างเช่น  นโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาในสมัยประธานาธิบดีเรแกนได้หันมาสร้างระบบแกนพันธมิตร 3 ฝ่าย อันประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และยุโรปตะวันตก(กลุ่มสนธิสัญญานาโต) เพื่อประสานระบบความมั่นคงและรักษาอำนาจของสหรัฐอเมริกา ในส่วนที่เกี่ยวกับประเทศกำลังพัฒนานั้น สหรัฐอเมริกาจะเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวของสหรัฐอเมริกาโดยการลงทุน การให้ความช่วยเหลือในรูปการให้กู้ยืมและการให้เปล่าตลอดจนการให้การสนับสนุนการรวมตัวกัน เช่น สมาคมอาเซียน และตลาดร่วมยุโรป เป็นต้น ส่วนอดีตสหภาพโซเวียตก็มุ่งสร้างดุลยภาพทางทหารและทางอาวุธให้ทัดเทียมกับสหรัฐอเมริกา รวมทั้งมีบทบาทสนับสนุนสงครามปลดแอกในประเทศกำลังพัฒนามากยิ่งขึ้น
เป้าหมายเพื่อการรักษาความอุดมสมบูรณ์และการพัฒนาเศรษฐกิจ

เป้าหมายเพื่อการรักษาความอุดมสมบูรณ์และการพัฒนาเศรษฐกิจ

ในภาวะปัจจุบัน ปัญหาความแตกต่างระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้วกับประเทศที่ด้อยพัฒนาปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ในรูปของปัญหาความยากจนและความอดอยากในประเทศด้อยพัฒนาทั้งหลาย ลักษณะเช่นนี้ได้ก่อความตึงเครียดในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ โดยชาติอภิมหาอำนาจในสมัยนั้นต่างก็แข่งขันกันเพื่อมีอิทธิพล (sphere of influence) ของตนในประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลาย ประเทศกำลังพัฒนาจึงได้ถูกแบ่งออกเป็นค่ายสังคมนิยมและค่ายเสรีนิยม ซึ่งอันที่จริงแล้วประเทศกำลังพัฒนาที่อยู่ในค่ายเหล่านี้ ก็คือ ตลาดวัตถุดิบ ตลาดแรงงาน และตลาดสินค้าของประเทศอภิมหาอำนาจนั้นเอง ทำให้ประเทศกำลังพัฒนาเหล่านี้ต้องพึ่งพิงกับประเทศมหาอำนาจตลอดไป นอกจากนั้นประเทศมหาอำนาจต่างๆก็สามารถใช้แนวทางเศรษฐกิจต่างๆเพื่อการรักษาความอุดมสมบูรณ์และการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อผลทางเศรษฐกิจของตนอีกด้วย เช่น การใช้นโยบายทุ่มสินค้า นโยบายปิดล้อม เป็นต้น
กล่าวโดยสรุป นโยบายต่างประเทศของรัฐย่อมมีเป้าหมายอย่างน้อย ภ ประการดังที่กล่าวมาแล้ว อย่างไรก็ดี เป้าหมายเพื่อการรักษาสันติภาพกลับเป็นเป้าหมายที่ถูกจำกัดในตัวเอง กล่าวคือ เป้าหมายเพื่อการรักษาความมั่นคงและอำนาจของรัฐได้ทำให้การแสวงหาสันติภาพและความเป็นกลางทางการเมืองถูกบดบังลง ในขณะเดียวกัน เป้าหมายเพื่อการสร้างความอุดมสมบูรณ์และพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งในทางปฏิบัติเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือทางทหารนั้นได้กลับกลายแนวทางของการแสวงหาประโยชน์ของประเทศผู้ให้มากกว่าที่จะเป็นการช่วยเหลือประเทศด้อยพัฒนาหรือประเทศพัฒนาเพื่อบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจดังกล่าว

อนึ่ง ยังได้มีการกำหนดเป้าหมายของนโยบายต่างประเทศไว้ในอีกลักษณะหนึ่ง คือ เป้าหมายเพื่อการขยายอำนาจ (goals of national self-extension) เป้าหมายเพื่อการรักษาสถานภาพหรือความอยู่รอดของรัฐ(goals of national self-preservation) และเป้าหมายเพื่อส่วนรวม(goals of national self-abnegation) กล่าวคือ

1.นโยบายต่างประเทศที่ทีเป้าหมายเพื่อขยายอำนาจ ก็คือ การเปลี่ยนแปลงจากสถานภาพเดิม(status quo) ได้แก่ เพื่อขยายอำนาจในทุกวิถีทาง การครอบครองดินแดนและประชาชนของรัฐอื่น การเรียกร้องดินแดนคืน การสนับสนุนสงครามปลดแอกอย่างในอดีต เป็นต้น

2.นโยบายต่างประเทศที่มีเป้าหมายเพื่อรักษาสถานภาพเดิม ก็คือ นโยบายที่ยืนหยัดเพื่อสถานภาพเดิม ได้แก่ การปกป้องคุ้มครองและการป้องกันเอกราชของชาติและอธิปไตยในดินแดนของตน เป็นต้น
3.นโยบายต่างประเทศเพื่อส่วนรวม ก็คือ การรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ส่วนรวม โดยลดผลประโยชน์ส่วนตัว ได้แก่ การสร้างสันติภาพ การสร้างความเข้มแข็งและความเป็นระเบียบในทางการเมืองระหว่างประเทศ เป็นต้น

การที่เสนอแนวทางที่แตกต่างกันของเป้าหมายของนโยบายต่างประเทศก็เพื่อประสงค์ให้นักศึกษามีกรอบความคิดในการพิจารณาเป้าหมายของนโยบายต่างประเทศในลักษณะที่กว่างขวางขึ้น อันจะเป็นปะโยชน์ในการศึกษาวิเคราะห์ต่อไป


แหล่งข้อมูล : เอกสารการสอนชุดวิชา ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
โดย พระ จันทร์ธู แปต / อุทฺธํธมฺโม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น